ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บทที่ 15

บทที่15 ชาตินี้ทั้งชาติอย่าคิด หลังจากที่ออกจากชุ่ยเก๋อซวน เย่เฉินไม่ได้กลับบ้านทันที ในวันครบรอบวันแต่งงาน เขาต้องการที่จะเซอร์ไพรส์ภรรยา เซอร์ไพรส์ที่ว่าไม่เพียงแต่จะเป็นสร้อยหยกมรกตเท่านั้น เขาจัดงานแต่งงานที่แสนจะ โรแมนติกให้กับภรรยาเขาด้วย ในตอนแรกเย่เฉินกับเซียวชูหรันรีบร้อนขอใบทะเบียนสมรสตามที่ผู้ใหญ่บอกเท่านั้น ยังไม่ได้จัดงานแต่งงานใดๆ เดิมทีพวกผู้ใหญ่อยากจะเลือกวันที่เป็นฤกษ์งามยามดี เพื่อที่จัดงานแต่งงาน แต่ว่าพอได้ใบทะเบียนสมรสมาแล้วเขาก็ป่วยหนักเสียก่อน งานแต่งงานจึงต้องชะงักเอาไว้ ต่อมาพวกผู้ใหญ่ไม่อยู่แล้ว เย่เฉินจึงโดนดูถูกดูแคลนในบ้านตระกูลเซียว จึงยิ่งจัดงาน แต่งงานขึ้นไม่ได้ แต่ว่า ตอนนี้ตัวเองมีเงินแล้ว จะต้องจัดงานแต่งงานให้ภรรยาให้ได้! คิดถึงเรื่องจัดงานแต่งงาน สิ่งแรกที่เขาคิดถึงคือ สวนดอกไม้ในโรงแรมแชงกรีล่า! โรงแรมแชงกรีล่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองจินหลิงเวลานี้ พื้นที่โรงแรมใหญ่มาก ตกแต่งอย่างหรูหรา และด้านในมีชอปปิ้ง มอลล์ที่ยิ่งใหญ่และอลังการ มีสวนดอกไม้กลางอากาศ อยู่ชั้นบนสุดของชอปปิ้งมอลล์ ดังนั้นจึงเรียกว่าสวนดอกไม้กลางอากาศ เป็นเพราะรอบๆนั้นประดับด้วยกระจกคริสตัล ด้านในประดับประดาไปด้วยดอกไม้ชั้นนำจากต่างประเทศ ดูไปไม่ต่างอะไรกับสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่กลางอากาศ ในขณะเดียวกันที่นี่ก็มีห้องอาหารและห้องบอลลูมที่ใหญ่ที่สุดใสเมืองจินหลิง ถ้าหากจัดงานแต่งงานในนี้ อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินเป็นล้าน ตอนนี้เย่เฉินมีเงินแล้ว เงินไม่กี่ล้านสำหรับเขาไม่นับประสาอะไร ขอแค่ภรรยามีความสุข สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงมาที่โรงแรมแชงกรีล่า นึกถึงวันครบรอบวันแต่งงาน แล้วจึงเหมาบอลลูมนั้นไว้ทั้งฟลอร์ แต่ว่า เย่เฉินไม่รู้อะไร โรงแรมแชงกรีล่าให้บริการเฉพาะสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นกินข้าว เข้าพัก หรือว่าจัดงานเลี้ยงใดๆ ก็ต้องเป็นสมาชิกของที่นี่ และระดับของสมาชิกก็แต่กต่างกัน การบริการก็แตกต่างกันไปด้วย สมาชิกธรรมดา ได้แต่ใช้บริการห้องอาหารเท่านั้น ห้องพักก็ได้แต่เพียงห้องสแตนดาร์ด สมาชิกระดับซิลเวอร์สามารถจองห้องส่วนตัวในการรับประทานอาหาร และอยู่ห้องพักระดับสุพรีเรียร์ สมาชิกระดับโกลเด้น สามารถใช้บริการห้องอาหารลักชัวรี่ และเข้าพักใน ห้องสวีท ส่วนสมาชิกระดับไวท์โกล์ดสามารถใช้บริการห้องอาหารสวนดอกไม้ลอยฟ้า และเข้าพักในห้องลักชัวรี่สวีท สมาชิกระดับสูงที่สุดคือ สมาชิกระดับไดมอนด์ มีเพียงสมาชิกระดับไดมอนด์เท่านั้น ถึงจะเข้าพักในห้องพักเพรสซิเดนท์ได้ และก็มีเพียงสมาชิกระดับไดมอนด์เท่านั้น ถึงจะสามารถเหมาสวนดอกไม้ลอยฟ้าในการจัดงานได้ นอกจากนี้ สมาชิกระดับโกลเด้นลงไป ใช่ว่ามีเงินแล้วจะมาจัดงานได้ จะต้องมีสถานภาพทางสังคมที่เหมาะสมด้วย เย่เฉินมาถึงโรงแรมแชงกรีล่า ยังไม่ทันได้เข้าประตู ก็โดนชายสวมสูทสีดำสองสามคน ขวางเอาไว้ “ขออภัยขอรับคุณผู้ชาย กรุณาแสดงบัตรสมาชิกด้วยขอรับ” ทั้งเนื้อทั้งตัวของเย่เฉินรวมกันน่าจะมีไม่ถึงสองร้อย แต่งตัวแบบนั้น เมื่อเทียบกับแขก เหรื่อคนอื่นๆที่เข้ามาใช้บริการ จึงค่อนข้างขวางหูขวางตา เย่เฉินรีบร้อนพูดขึ้น“ทั้งสองท่าน ผมต้องการหาผู้จัดการฝ่ายบริการ มาคุยเรื่องจัดงาน” ฝ่ายตรงข้ามพูดเสียงเย็นชา“ขอโทษครับ ไม่มีบัตรสมาชิกเข้าไม่ได้!” เย่เฉินกล่าว“งั้นผมสมัครตอนนี้ได้ไหม” ฝ่ายตรงข้ามส่ายหน้าพูด“ขอโทษครับ บัตรสมาชิกต้องผ่านผู้แนะนำครับ” เย่เฉินขมวดคิ้วในใจคิดว่า แชงกรีล่านี่โคตรวุ่นวายเลย ไม่รู้ว่าจังหวะไหน จู่ๆเขาพลันนึกขึ้นได้ ในตอนที่คุณท่านใหญ่เซียวแนะนำให้เขาเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยจินหลิง ในตอนที่เขาเรียนชั้นปีที่สี่กับภรรยา มีเพื่อนนักเรียนคน หนึ่งชื่อปี้ลีน่า รู้สึกว่าหล่อนจะทำงานอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาปี้ลีน่า หลังจากที่เขาเล่าเรื่องที่ตนเองอยากทำบัตรสมาชิก ปี้ลีน่าจึงรีบพูดขึ้น“หัวหน้าห้องเย่ เรื่องนี้มอบให้ฉันเถอะ เดี๋ยวฉันมา!” เย่เฉินรีบร้อนขอบคุณ ดูท่า แม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับปี้ลีน่าเพียงแค่ปีเดียว แต่มิตรภาพก็ยังคงอยู่ ต่อไปเขาต้องตอบแทนน้ำใจปี้ลีน่าคืนแน่นอน “แหม หัวหน้าห้องเย่!” ไม่กี่นาทีต่อมา จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งลอดมา เมื่อเงยหน้า เย่เฉินก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดพนักงานออฟฟิศ แต่งหน้าเข้ม ท่าทางยั่วยวน เดินโยกย้ายส่ายสะโพกมา ปี้ลีน่าเหรอ หล่อนเปลี่ยนไปมากจริงๆ!เกือบจำไม่ได้! เมื่อเห็นหญิงสาวผู้ยั่วยวน บอดี้การ์ดชายสวมสูทดำสองคนที่อยู่หน้าประตู จึงพูดขึ้นอย่างนอบน้อม“หัวหน้ากลุ่มปี้” เย่เฉินพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ“ปี้ลีน่า ไม่เจอกันไม่กี่ปี เธอเป็นหัวหน้าที่แชงกรีล่าแล้ว เหรอ ยอดเยี่ยมไปเลย!” ปี้ลีน่ายิ้มพลางพูด“หัวหน้าห้องเกรงใจไปแล้ว ฉันก็แค่เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลแค่นั้นเอง เป็นแค่หัวหน้าชั้นกลางในนี้เท่านั้นน่ะ” เย่เฉินชื่นชมออกมาจากใจ“ก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้วล่ะ ฉันได้ยินมาว่าระบบบริหารในแชงกรีล่า มาตรฐานสูงมาก เธอนี่สุดยอดจริงๆ!”ปี้ลีน่ายิ้มอย่างภาคภูมิ มองไปทางบอดี้การ์ดสองคน พูดเย็นชา“พวกนายสองคนเหรอที่ขวางหัวหน้าสมัยเรียนของฉันไม่ให้เข้า”สองคนสบตากัน คนหนึ่งรีบร้อนพูดขึ้น“ขอโทษครับหัวหน้ากลุ่มปี้ ผมไม่รู้ว่านี่คือหัวหน้าของท่าน เห็นเขาไม่มีบัตรสมาชิก ผมจึงต้องทำตามกฎของโรงแรมครับ
”ปี้ลีน่าแค่นเสียง“กฎเกณฑ์นั้นตายตัว แต่คนไม่ตายตัว หลักการแค่นี้ไม่เข้าใจหรือ”เย่เฉินคิดว่าปี้ลีน่าจะลงโทษพวกเขาเพราะตนเอง จึงรีบพูดขึ้น“ปี้ลีน่า อย่าโทษพวกเขาเลย และก็อย่าทำให้พวกเขาลำบากใจเลย พวกเขาแค่ทำตามกฎน่ะ”ปี้ลีน่ามองเย่เฉิน จู่ๆหัวเราะออกมา แล้วเปลี่ยนรอยยิ้ม พูดจาเสียดสี“หัวหน้าห้องเย่ นายเข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง นายคิดว่าฉันจะไปสร้างความลำบากใจให้ลูกน้องเพราะนายอย่างนั้นเหรอ”เย่เฉินขมวดคิ้ว“ปี้ลีน่า หมายความว่าไง”“ฉันหมายความว่าไงน่ะเหรอ”ปี้ลีน่าเบ้ปากยิ้ม“ความหมายของฉันยังไม่ชัดหรือไง เสื้อกล้ามเหม็นๆอย่างนายคิดจะเข้าแชงกรีล่าเหรอ จะบอกให้นะ ชาตินี้ทั้งชาติอย่าแม้แต่จะคิด!”เย่เฉินกำหมัดแน่น ถามขึ้น“ตกลงหมายความว่าไงกันแน่”“ก็ล้อนายเล่นน่ะสิ!”ปี้ลีน่าหัวเราะคิกคักพูดขึ้น“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยฉันดูถูกนายมากเลย เอาแต่ใส่เสื้อกล้ามเหม็นๆอยู่ได้ กับข้าวที่มีเนื้อในโรงอาหารยังไม่มีปัญญากิน ยังได้เป็นหัวหน้าห้องอีก แล้วยังมีหน้ามาเจ้ากี้เจ้าการผลการเรียนฉันอีกนะ ถุย!ฉันล่ะดูถูกจริงๆ!”สีหน้าเย่เฉินเย็นชาพูดขึ้น“ปี้ลีน่า ฉันเย่เฉินไม่เคยไปเย้าแหย่อะไรเธอเลย ทำไมเธอต้องคอยเสียดสีฉันอยู่ได้”